แผ่นสำลีจากฝ้ายและไผ่
แผ่นสำลีผสมผ้าไผ่แบบกลมถือเป็นการพัฒนาขั้นก้าวหน้าอย่างสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและอุปกรณ์เสริมความงาม โดยผสานความนุ่มนวลตามธรรมชาติของผ้าฝ้ายอินทรีย์เข้ากับคุณสมบัติอันโดดเด่นของเส้นใยผ้าไผ่ เพื่อสร้างเครื่องมือทำความสะอาดผิวและดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม แผ่นสำลีผสมผ้าไผ่รูปแบบนี้ได้รับการผลิตขึ้นอย่างประณีตผ่านกระบวนการผลิตขั้นสูงที่รักษาคุณสมบัติเดิมของวัสดุทั้งสองชนิดไว้ พร้อมทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานร่วมกันให้ดียิ่งขึ้น หน้าที่หลักของแผ่นสำลีผสมผ้าไผ่ ได้แก่ การล้างเครื่องสำอาง การทำความสะอาดใบหน้า การทายาหรือทอนเนอร์ และการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ที่สามารถเพิ่มเติมเข้าไปในขั้นตอนการดูแลผิวได้อย่างลงตัว คุณสมบัติด้านเทคโนโลยีของแผ่นสำลีผสมผ้าไผ่ ได้แก่ คุณสมบัติต้านจุลินทรีย์ตามธรรมชาติที่ได้จากสารบัมบูคัน (bamboo kun) ความสามารถในการดูดซับของเหลวที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์สำลีทั่วไปอย่างชัดเจน และความทนทานที่ดีขึ้น ทำให้สามารถใช้งานซ้ำได้หลายครั้งโดยไม่สึกหรอหรือเสื่อมสภาพ แผ่นสำลีชนิดนี้ใช้เทคนิคการทอผ้าแบบพิเศษที่สร้างพื้นผิวสองแบบในด้านที่ต่างกัน คือ ด้านหนึ่งให้การขจัดสิ่งสกปรกอย่างอ่อนโยน อีกด้านหนึ่งให้การผลัดเซลล์ผิวอย่างเบาบาง ส่วนประกอบของผ้าไผ่ช่วยเพิ่มความสามารถในการดูดซับความชื้นตามธรรมชาติ ในขณะที่ผ้าฝ้ายช่วยให้มั่นใจได้ถึงความนุ่มนวลสูงสุดเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบาง แอปพลิเคชันการใช้งานของแผ่นสำลีผสมผ้าไผ่จึงไม่ได้จำกัดเพียงแค่การดูแลผิวขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังการรักษาในสปาระดับมืออาชีพ สถานพยาบาลที่ต้องการวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และครัวเรือนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนแทนผลิตภัณฑ์สังเคราะห์ กระบวนการผลิตเริ่มจากการคัดเลือกเส้นใยผ้าฝ้ายอินทรีย์อย่างพิถีพิถัน จากนั้นจึงผสมกับเส้นใยไผ่เวสโคส (bamboo viscose) โดยใช้เทคนิคการปั่นพิเศษที่รักษาความสมบูรณ์ของเส้นใยไว้ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงสุด แผ่นสำลีผสมผ้าไผ่เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติในการกักเก็บของเหลวได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถเก็บผลิตภัณฑ์ได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปถึงสามเท่า ในขณะที่ยังสามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอบนพื้นผิวผิวหนัง ดีไซน์ทรงกลมช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจับถือ และรับประกันการปกคลุมผิวได้อย่างทั่วถึง ในขณะที่ขอบที่เสริมความแข็งแรงช่วยป้องกันการซีดจางหรือเปื่อยยุ่ย และยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ให้ยาวนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ