เทคโนโลยีการตัดด้วยน้ำแรงดันสูง
เทคโนโลยีการตัดด้วยเจ็ทของน้ำเป็นกระบวนการผลิตแบบปฏิวัติวงการ ซึ่งใช้ลำน้ำที่มีแรงดันสูงในการตัดวัสดุต่างๆ ด้วยความแม่นยำสูงมาก วิธีการตัดขั้นสูงนี้ทำงานโดยการเพิ่มแรงดันน้ำให้สูงมาก โดยทั่วไปอยู่ในช่วง 30,000 ถึง 90,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ทำให้เกิดลำน้ำที่เข้มข้น สามารถตัดวัสดุตั้งแต่ยางนิ่มไปจนถึงเหล็กกล้าแข็งได้ หลักการพื้นฐานของเทคโนโลยีการตัดด้วยเจ็ทของน้ำคือการบีบให้น้ำไหลผ่านรูขนาดเล็กมาก ซึ่งโดยทั่วไปทำจากเพชรหรือไพลินสังเคราะห์ ทำให้ลำน้ำถูกโฟกัสเป็นลำแคบมาก โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.003 ถึง 0.05 นิ้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัด ระบบเจ็ทของน้ำหลายระบบจะเติมอนุภาคขัดสี เช่น แกร์เนต ลงในลำน้ำ ทำให้เทคโนโลยีนี้สามารถตัดวัสดุที่แข็งมาก เช่น ไทเทเนียม หิน และวัสดุคอมโพสิตได้ คุณลักษณะทางเทคนิคของการตัดด้วยเจ็ทของน้ำรวมถึงระบบควบคุมตัวเลขด้วยคอมพิวเตอร์ (CNC) ที่ควบคุมหัวตัดให้เคลื่อนที่ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าด้วยความแม่นยำระดับไมโคร ปัจจุบัน เทคโนโลยีการตัดด้วยเจ็ทของน้ำสามารถตัดได้ถึง 5 แกน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถสร้างรูปร่างสามมิติที่ซับซ้อนและขอบที่เอียงได้ กระบวนการนี้ทำงานที่อุณหภูมิค่อนข้างต่ำ จึงไม่ก่อให้เกิดโซนที่ได้รับผลกระทบจากความร้อน ซึ่งอาจทำให้คุณสมบัติของวัสดุเสียหาย คุณลักษณะการตัดแบบเย็นนี้ทำให้เทคโนโลยีการตัดด้วยเจ็ทของน้ำเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัสดุที่ไวต่อความเครียดจากความร้อน การประยุกต์ใช้งานมีอยู่ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิตอากาศยานสำหรับชิ้นส่วนที่ต้องการความแม่นยำ การผลิตรถยนต์สำหรับการสร้างจอยกและซีล โครงการด้านสถาปัตยกรรมที่ต้องการงานหินและโลหะที่ซับซ้อน และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารที่ต้องการสภาพแวดล้อมการตัดที่สะอาดเป็นพิเศษ ความหลากหลายของเทคโนโลยีการตัดด้วยเจ็ทของน้ำยังขยายไปถึงความสามารถในการตัดวัสดุที่มีความหนาต่างกัน สามารถตัดวัสดุได้ตั้งแต่แผ่นฟอยล์บางๆ ไปจนถึงแผ่นที่มีความหนาเกิน 12 นิ้ว ทำให้เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในหลากหลายภาคส่วนการผลิตที่ต้องการคุณภาพการตัดและความแม่นยำด้านมิติในระดับสูง